#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์
อยุธยา – รองนายกฯ ‘ประวิตร’ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
เมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 3 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รมว.กลาโหม และคณะ ร่วมลงพื้นที่มาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ และการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย พล.อ.ประวิตร เดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์ และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาณ ณ วัดโบสถ์(ล่าง) อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี และนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัด พลตรี เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผบ.มทบ.18 พ.อ.นฤนาท พุทไธสง รอง ผบก.ตร.ภ.จ. นางสมทรง พันเจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ว่าที่ร้อยตรี สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ให้การต้อนรับ หลังจากนั้น ได้เดินทักทายกับหน่วยงานราชการ พี่น้องประชาชน ที่มารอให้การต้อนรับ โดยประชาชนได้ร้องขอให้ พล.อ.ประวิตร ช่วยปล่อยน้ำเข้าทุ่งช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
พลเอก ประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมชลประทานได้เพิ่มอัตราการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2643 ลูกบาศก์เมตร /ต่อวินาที ทำให้ประชาชนและพื้นที่การเกษตร พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณท้ายเขื่อนบางแห่งได้รับผลกระทบจากมวลน้ำเข้าท่วมพื้นที่ ประกอบด้วย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา และแม่น้ำน้อย ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมเช่นนี้เป็นเรื่องปกติที่ชาวบ้านในพื้นที่รับรู้ว่าจะเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูน้ำหลาก ซึ่งได้ให้กรมชลประทานเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังยังจุดเสี่ยงล่วงหน้า พร้อมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเที่ยง ทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการในส่วนของการเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ จุดที่ 2 ณ หน้าที่ว่าการอำเภอเสนา
ปัจจุบัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประชาชน ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 11 อำเภอ 107 ตำบล 598 หมู่บ้าน 29,795 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ รวม 2,566 ไร่ ได้แก่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราช และ อำเภอวังน้อย ทั้งนี้ จังหวัดฯ ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้วทั้ง 11 อำเภอ
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมชลประทาน ให้พิจารณาเปิดประตูระบายน้ำ ตามการร้องเรียนจากราษฎรในพื้นที่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ และขอให้กรมชลประทาน ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่รับน้ำ
เดชา อุ่นขาว ข่าว”เดย์ไทม?นิวส์ออนไลน์”รายงานจากอยุธยา
สนับสนุนโดย