#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์
อยุธยา – รมช.คมนาคม ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา สั่งเร่งฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารและหน่วยงานในสังกัด ลงพื้นที่วัดบางนมโค ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ อ.เสนา อ.บางซ้าย อ.ผักไห่ อ.ลาดบัวหลวง ณ วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายปะดิธ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 5 นางสาวอารินทร์ แสงทอง นายอำเภอเสนา ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ







สำหรับอำเภอเสนามีบ้านเรือนประชาชนทั้งสิ้น 24,472 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ 10,577 ครัวเรือน มีประชากรได้รับผลกระทบ 31,026 คน จากประชากรทั้งหมด 64,653 คน อำเภอเสนา แบ่งการปกครองเป็น 17 ตำบล 132 หมู่บ้าน 24 ชุมชนที่พื้นที่ทั้งหมด 205 567 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่เป็นที่เป็น มีแม่น้ำน้อยไหลผ่านระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เ เมื่อถึงฤดูน้ำหลากช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนจะเริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยเมื่อเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาทเริ่มระบายน้ำที่ 600 ถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตำบลบ้านกระทุ่ม หัวเวียง เริ่มได้รับผลกระทบน้ำเข้าใต้ถุนบ้าน สูงประมาณ 20-30เซนติเมตร ซึ่งในปี 2568 มีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้บ้านเรือนของราษฎรที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำน้อยได้รับผลกระทบ จำนวน 17 ตำบล 131 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 10,577 หลังคาเรือน ถนนสายรอง(ซอยเข้าบ้าน) ที่ใช้สัญจรภายในหมู่บ้านได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 42 สาย วัดจำนวน 10 แห่ง มัสยิดจำนวน 1 มัสยิด โรงเรียน จำนวน 7 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 2 แห่ง



นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ได้ปล่อย “คาราวานถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือและกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ นอกจากการมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแล้ว กระทรวงคมนาคมยังให้ความสำคัญสูงสุดกับการซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นทางคมนาคม ทั้งทางถนน ทางน้ำ และทางราง ที่ได้รับความเสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งความช่วยเหลือและให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เดชา อุ่นขาว บรรณาธิการข่าว”เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์”รายงาน