“อลงกรณ์” ติวเข้มเส้นทางสู่ชัยชนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 6 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชู “ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”

 

ที่ห้องประชุมสัมมนา เดอะ คาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท (The Cavalli Casa Resort ) อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งภาคกลาง ดร.สุริยะ ศึกษากิจ และทีมกลยุทธ์ 6 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง

 

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการประชุมผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ 6 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 14 เขต ร่วมกันขับเคลื่อนการเมืองสีขาว ไปสู่ชัยชนะที่ยั่งยืนตามสโลแกนของพรรค คือ “ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต “ และตามหัวใจนโยบายพรรค คือ “ ประชาธิปัตย์แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” เพื่อสร้างมิติใหม่ของการเมืองไทย มิติใหม่ของผู้แทนราษฎร์ มิติใหม่ของประชาธิปไตย เพื่อให้สามารถยกระดับประเทศของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ นั่นก็คือ 6 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีมิติทั้งในเรื่องของการเกษตร การอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว คุณภาพชีวิต ตลอดถึงการค้าระหว่างประเทศ ตรงนี้คือทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาที่เรียกว่าระเบียงเศรษฐกิจการพัฒนาในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยจะมีโครงการชัดเจนทันทีที่เป็นรัฐบาล เราจึงมีความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เรามีโอกาสเป็นรัฐบาลมากที่สุด เพราะเรามีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างเบ็ดเสร็จ โครงการเจ้าพระยา 3 เจ้าพระยา 3 โครงการวงแหวนรอบที่ 3 ก็ดี หรือการให้เขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะตามสภาพของจังหวัด รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ กับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CROD ตลอดจนการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ เพราะลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นกระดูกสันหลังของการขนส่งทางน้ำที่มีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งการค้าภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ มิติเหล่านี้คือการนำเสนอเพื่อให้เราก้าวข้ามการเมืองแบบเก่า และไม่ใชการเมืองแห่งผลประโยชน์อีกต่อไป ดังนั้นการประชุมวันนี้ถือโอกาสประกาศเป็นวันเดินหน้าสู่ชัยชนะ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากชนะการเลือกตั้งและเป็นรัฐบาลในครั้งนี้ จะมีการส่งเสริมครบทุกมิติ 1.การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในฐานะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองมรดกโลก เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในอดีต โดยมีการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงการขนส่งโลจิสติกส์ ทั้งรถไฟฟ้า เส้นทางของการเชื่อมโยงของการท่องเที่ยวกลายเป็นหนึ่งในฐานเศรษฐกิจสำคัญของพระนครศรีอยุธยา แต่เราจะไม่ลืมในเรื่องของการเกษตรและอุตสาหกรรม นี่คือมิติใหม่ของอยุธยา แต่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และ คุณภาพชีวิตของประชาชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือศูนย์กลางของ 6 จังหวัดในกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา โครงการวงแหวนรอบ 3 เส้นทางรถไฟฟ้า ก็จะเชื่อมโยงผ่านมาที่อยุธยา เรื่องของการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญของอยุธยา และภูมิภาคนี้ ก็จะมีการผลักดันในเรื่องของโครงการเจ้าพระยา 2 และ 3 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่ให้เกิดอุทกภัยเหมือนปี 2554

การวางตัวผู้สมัครใน 350 เขต ทั่วประเทศรวมทั้งในกลุ่ม 6 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา 14 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1. นายประชา ยอดวานิช ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 จ.ชัยนาท 2. นายสนธยา ภูสิต เขต 2 จ.ชัยนาท 3. นายสาโรจน์ พันธุ์ธาสุ จ.สิงห์บุรี 4. นายอิสระ บุญญาอรุณเนตร เขต 1 จ.สุพรรณบุรี 5. นายวิสุทธิ์ สุนทรวิภาค เขต 2 จ.สุพรรณบุรี 6. พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ เขต 3 จ.สุพรรณบุรี 7. นายเอกรินทร์ คำ เขต 4 จ.สุพรรณบุรี 8. นายสมบูรณ์ มีนาค เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา 9. นายเอกราช ใกล้สว่าง เขต 2 จ.พระนครศรีอยุธยา 10. ว่าที่ร.ต.พลัฎฐ์ มงคลเชื้อทอง เขต 3 จ.พระนครศรีอยุธยา 11. นายอาทิตย์เทพมงคล ทองรอด เขต 4 จ.พระนครศรีอยุธยา 12. นายอรชุน ประสิทธิ์สมบัติ จ.อ่างทอง 13. นายกุลเดช พัวพัฒนกุล (อดีตส.ส.) เขต 1 จ.อุทัยธานี 14. นายวิทยา จันทร์สม เขต 2 จ.อุทัยธานี

เดชา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

0899012002

 

 

 

 

 

 

 

Related posts