##เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์##ข่าวสาร สร้างสรรค์ ทันเหตุการณ์##รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดโครงการสัมมนามอบนโยบาย”ที่ดินอีสานใต้” แจง ใช้ที่ดิน “ทรัพย์อิงสิทธิ์” ให้ชาวบ้านเข้าใจ ทำกิน จำนองได้ 30 ปี ลดเหลื่อมล้ำช่วยผู้ยากไร้ ป้องกันรุกทำลายป่า พ่วงมอบหนังสือใช้ที่ดินรัฐโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)นำร่อง 4 แปลง
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ณ โรงแรมทองธารินทร์ จ.สุรินทร์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดโครงการสัมมนามอบนโยบายและตรวจติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการกรมที่ดิน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) โดยมีนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ รองอธิบดีกรมที่ดิน และข้าราชการกรมที่ดินในพื้นที่เข้าร่วมเพื่อนำนโยบายและแนวทางปฏิบัติสู่ขับเคลื่อนตามภารกิจที่ตั้งเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การจัดการสัมมนานี้ มุ่งเน้นแนวทางปฏิบัติราชการของกรมที่ดิน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานบรรลุเป้าหมายตามภารกิจหลักของกรมที่ดิน ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ในด้านการคุ้มครองสิทธิ์ในที่ดินของบุคคล การจัดการที่ดินของรัฐให้เกิดความมั่นคงในการถือครองที่ดิน และได้รับการบริการที่ดี มีประสิทธิภาพตามภารกิจดังกล่าว ทั้งยังมุ่งเน้นเรื่องความเข้าใจของกฎหมายใหม่ ที่เรียกว่า “ทรัพย์อิงสิทธิ” ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลบังคับใช้ โดยหวังว่าจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มในทรัพย์ขึ้นของพี่น้องประชาชนได้ ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ์มีสิทธิสามารถโอน จำนอง ทรัพย์สินนั้นได้ประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้น
ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเวลาได้ไม่เกิน 30 ปี นอกจากนี้ได้ติดตามการจัดที่ดินให้กับพี่น้องประชาชนที่เข้าไปใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรความเดือดร้อนของประชาชน และหลักการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรมและยั่งยืน จึงนำที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนเลิกใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้วและมีผู้บุกรุกครอบครองทำประโยชน์มาเป็นเวลานาน มาจัดระเบียบการถือครอง โดยการจัดสรรให้ผู้ที่ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินหรืออยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่งได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินสาธารณะอยู่แล้ว โดยไม่ให้เป็นกรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ เป็นกลุ่มหรือชุมชน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คทช. กำหนด เพื่อเป็นการลด หรือระงับความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับภาครัฐ ป้องกันการบุกรุกที่ดินสาธารณะได้อีกทางหนึ่งด้วย
##เดชา อุ่นขาว รายงาน