#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์#
อยุธยา – ล่อจับผู้ค้าสัตว์ป่าสำเร็จ! เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ปฏิบัติการจับกุมหลังตรวจสอบพบการประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านทางโซเชี่ยล
วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 สืบเนื่องจากมีแจ้งเบาะแสเข้ามาว่า มีการประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นของนางเพ็ญศรี ซึ่งมีการโพสขายสัตว์ป่าผ่านทางเฟซบุ๊กหลายชนิด เช่น นกปรอดหัวโขน นกแก้วโม่ง นกขุนทอง และเหยี่ยวขาว และได้ทำการค้าขายสัตว์ป่ามาเป็นเวลานาน ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นนายหน้ารับสัตว์ป่ามาจากผู้อื่นแล้วนำมาขายต่อเอากำไรอีกทอดหนึ่ง คณะเจ้าหน้าที่จึงติดต่อขอซื้อเหยี่ยวขาว จำนวน 1 ตัว โดยนัดรับบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช อยู่ริมถนนสายอยุธยา – อ่างทอง อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ตำรวจ บก. ปทส. และตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม เมื่อถึงเวลานัดหมาย บริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช พบหญิงทราบชื่อภายหลังคือ นางดวงใจ (สงวนนามสกุล) นำกล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง มาถึงบริเวณดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ภายในพบสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดเหยี่ยวขาว จำนวน 1 ตัว
ซึ่งนางดวงใจ ฯ ให้ถ้อยคำว่า ตนเองมีลูกเหยี่ยวขาว จึงขายให้กับนางเพ็ญศรี ซึ่งรู้จักกันทางเฟซบุ๊กและนางเพ็ญศรีฯ ได้นำไปโพสขายในเฟซบุ๊ก ชื่อ “ กระรอก ดีดี ” และเมื่อสายลับได้ติดต่อขอซื้อ นางเพ็ญศรีฯ จึงได้แจ้งให้นางดวงใจฯ นำเหยี่ยวขาวตัวดังกล่าว มาส่งให้กับสายลับ ตามสถานที่ที่นัดหมายไว้ คณะเจ้าหน้าจึงได้ควบคุมตัวนางดวงใจฯ เป็นผู้ต้องหา และได้ขยายผลโดยให้นางดวงใจฯ นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 13/4 ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนางดวงใจยินดีและยินยอมพร้อมเป็นผู้นำตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิด นกเอี้ยงหงอน จำนวน 1 ตัว และนกกระรางหัวหงอก จำนวน 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์กระทำความผิด กรงเหล็ก จำนวน 2 กรง อยู่ในบริเวณบ้าน
โดยไม่มีหลักฐานการได้มาจากทางราชการแต่อย่่างใด คณะเจ้าหน้าจึงได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางเพ็ญศรี กรณีกระทำการประกาศ โฆษณา จำหน่าย สัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิดทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และได้สั่งการให้นางดวงใจ พุ่มวัฒน์ นำสัตว์ป่าคุ้มครองไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนางเพ็ญศรีฯ ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐาน”ร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” ซึ่งต้องระวางโทษตาม มาตรา 92 จำคุกไม่เกิน ห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน”ร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท
จึงทำการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง เหยี่ยวขาวจำนวน 1 ตัว นกเอี้ยงหงอน จำนวน 1 ตัว และนกกระรางหัวหงอก จำนวน 1 ตัว) พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด (กรงเหล็ก จำนวน 2 กรง และกล่องกระดาษ จำนวน 1 กล่อง (มูลค่าของกลาง รวมทั้งสิ้น 3,410 บาท) นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา และขอให้พนักงานสอบสวนออกมายเรียกตัวนางเพ็ญศรี มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่งสำหรับสัตว์ป่าของกลาง และอุปกรณ์การกระทำผิดได้ขอความเห็นชอบจากพนักงานสอบสวน ส่งมอบให้กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ารับไปดูแลและเก็บรักษาตามระเบียบ
ขอบคุณภาพข่าว: ส่วนประชาสัมพันธ์ฯ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
#เดชา อุ่นขาว รายงานข่าวจากอยุธยา