#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์# ข่าวสาร สร้างสรรค์ ทันเหตุการณ์ อยุธยาพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เตรียมแปรรูปขยะเป็นพลังงานส่งขายการไฟฟ้า พ่อเมืองกรุงเก่าพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างแรงจูงใจชาวอยุธยาคัดแยกขยะเตรียมส่งขายเพื่อแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าแก่การไฟฟ้า
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แก้ปัญหาขยะล้นเมือง ผุดไอเดียเตรียมสร้างรายได้จากขยะส่งขายแก่การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หวังสร้างแรงจูงใจด้วยการเพิ่มมูลค่าขยะซึ่งนับวันมีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อม ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีขยะเกิดขึ้นเฉลี่ยต่อวันประมาณ 900–1000 ตัน ในจำนวนนี้สามารถนำไปกำจัดได้ 493 ตัน และมีการหมุนเวียนใช้ประมาณ 400 กว่าตันต่อวัน สิ่งที่ต้องนำไปกำจัดขยะ มีขยะปลายทาง ขยะมีต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ที่ปลายทางคือระบบกำจัด บ่อฝังกลบ หรือในอนาคตบ่อฝังกลบบางแห่งมีการพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าจากขยะ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องมาวางแผน ปัจจุบันพระนครศรีอยุธยามีการแบ่งคลัสเตอร์ในการกำจัดขยะ อยู่ 3 คลัสเตอร์ คลัสเตอร์ของมหาพราหมณ์ จะมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นเจ้าภาพ มี อปท. อยู่ในกลุ่มนี้ประมาณ 84 แห่ง คลัสเตอร์ที่ 2 คือเทศบาลตำบลนครหลวงเป็นเจ้าภาพหลัก มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ 66 แห่ง และศูนย์เทศบาลเมืองเสนา จะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ 8 แห่ง กลุ่มที่ใหญ่คือมหาพราหมณ์กับนครหลวง ทางคณะกรรมการกำกับพลังงานได้เห็นชอบพิจารณาผู้ผ่านการคัดเลือก จาก อบจ.และจากเทศบาลตำบลนครหลวงมาเสร็จแล้ว รอการทำสัญญาต่อไป เพื่อนำขยะมาทำเป็นเชื้อเพลิงในการเผาขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าออกมา แล้วขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในส่วนของมหาพราหมณ์ที่ อบจ. ดูแลอยู่จะมีกำลังไฟที่จะขายให้กับการไฟฟ้าอยู่ประมาณ 5 เมกะวัตต์ ส่วนของนครหลวง จะมีกำลังไฟที่จะขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอยู่ประมาณ 8 เมกะวัตต์ ตัวนี้ก็จะเป็นหลักประกันที่สำคัญทำให้ระบบกำจัดขยะที่ปลายทางมีความเข้มแข็งมากขึ้น เมื่อโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเปิดการเดินเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ยังเป็นห่วงขยะต้นทาง คือภาคครัวเรือน จะต้องมีการทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้ในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี สร้างจิตสำนึกร่วมกันในการลดขยะที่นับวันจะแก้ไขได้ยากยิ่งขึ้น ทั้งหมดก็เพื่อการพัฒนาเมืองเก่าอยุธยา ให้สะอาดหู สบายตา เป็นเมืองปลอดขยะ ให้สมกับการเป็นเมืองมรดกโลกที่ยูเนสโกได้ประกาศรับรองไว้
ขอบคุณภาพข่าว: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เดชา อุ่นขาว รายงาน